( ฉันกินขนมปังและเนยเป็นอาหารเช้าทุกวัน) We cannot live without air and water. ( เราไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้โดยปราศจากอากาศและน้ำ) Information is often valuable. ( ข้อมูลข่าวสารมักจะมีคุณค่า) Sunlight and water are usually required for plants to grow. ( แสงแดดและน้ำเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของพืช) My favorite breakfast is cereal with fruit, milk, orange juice, and toast. Uncountable nouns ที่ทำหน้าทีประธานของประโยค จะต้องใช้ verb ด้วยหลักการเดียวกับคำนามเอกพจน์ เช่น Butter is fattening. ( เนยทำให้อ้วน) ปกติจะมีรูปเป็นเอกพจน์ แต่ทำให้เป็นพหูพจน์ได้โดยบอกจำนวนตามภาชนะที่บรรจุ กลุ่ม น้ำหนัก และลักษณะนาม เช่น two cups of water, three pieces of information, five patche s of sunlight three games of hockey, two lumps of sugar I need two lumps of sugar for my coffee. ฉันกินกาแฟต้องใส่น้ำตาล 2 ก้อน Two glasses of milk are enough. นมสองแก้วก็เพียงพอแล้ว ( ใช้ are เนื่องจาก glasses เป็นพหูพจน์) 3.

Noun - สรุปอังกฤษ

"I" ให้ใช้กริยาที่ไม่เติม s นะครับ เช่น I drive my car to work every day. I have a lot of friends.

นับไม่ได้เป็นรายสิ่ง เพราะรวมกันอยู่เป็นกลุ่มก้อน 2. ทำเป็นรูปพหูพจน์ไม่ได้ (มีรูปเอกพจน์อย่างเดียว) 3.

หลักการเติม s และ es หลังกริยา มีหลักการอย่างไร และมีวิธีการเติมกี่แบบ มาดูกัน

ถูก We want to buy some bread. เราต้องการซื้อขนมปัง ผิด There's a few petrol in the car. ถูก There's a little petrol in the car. มีนํ้ามันเล็กน้อยในรถยนต์ 5. คำนามบางคำสามารถเป็นได้ทั้งคำนามนับได้และนับไม่ได้ กล่าวคือ หากเป็นคำนามนับไม่ได้จะมีความหมายทั่วๆ ไป เช่น cheese (เนยแข็ง), glass (วัสดุแก้ว), paper (กระดาษ), iron (แร่เหล็ก), hair (ผมบนศีรษะ) แต่หากเป็นคำนามนับได้จะหมายถึงชนิดนั้นหรือมีความหมายเป็นอย่างอื่นเช่น 20 different cheeses (เนยแข็งชนิดต่างๆ 20 ชนิด), glasses (แว่นตา, แก้วน้ำ), a paper (หนังสือพิมพ์), an iron (เตารีด), a hair (ผม 1 เส้น) นามนับไม่ได้ I hate cheese. ผมเกลียดเนยแข็ง นามนับได้ I bought 20 different cheeses. ผมได้ซื้อเนยแข็งมา 20 ชนิด It's made of glass. มันทำมาจากวัสดุแก้ว I had a glass of Coca-Cola. ผมมีเครื่องดื่มโคคา-โคลา 1 แก้ว Books are made of paper. หนังสือทำมาจากกระดาษ Buy me a paper, please. กรุณาซื้อหนังสือพิมพ์มาให้ผมด้วย ที่มา:รองศาสตราจารย์ทณุ เตียวรัตนกุล (Visited 24, 870 times, 1 visits today)

Countable and Uncountable Nouns คืออะไร? – – Jasminine –

Countable noun – คำนามนับได้มีทั้งคำนามเอกพจน์ (singular noun) คือ มีเพียงสิ่งเดียวหรืออันเดียวเวลานำไปใช้ ก็ใส่จำนวน 1 หรือ one ไว้ข้างหน้าก็ได้ หรือใช้ a หรือ an นำหน้าก็ได้ เช่น a book, an elephant, one pen ก็มีความหมายว่า หนึ่งได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้คำนามนับได้ยังเป็นคำนามพหูพจน์ (plural noun)ได้ คือมีหลายอัน หลายคน หรือหลายชิ้น และเติม s/es เข้าไปเพื่อบอกว่ามีจำนวนมากกว่าหนึ่ง แต่บางคำจะมีการเปลี่ยนรูป เช่น a man two men a tooth three teeth – สามารถใช้จำนวนนับ (1, 2, 3, …. ) นำหน้าเพื่อบอกจำนวนได้ และคำนามตัวนั้นก็เติม s/es เพื่อให้เป็นคำนามพหูพจน์ เช่น Two rooms 2 rooms Fifteen boxes 15 boxes เวลาถามจำนวนใช้ How many + คำนามพหูพจน์ เพื่อถามจำนวน เช่น How many pencils do you want? How many bottles do you have? 2. Uncountable Noun – คำนามนับไม่ได้เป็นได้แค่คำนามเอกพจน์เท่านั้น จะไม่มีรูปพหูพจน์ เมื่อไม่มีรูปพหูพจน์ก็จะใส่จำนวนลงไปไม่ได้ เช่น oil จะไม่ใช้ two oil paper จะไม่ใช้ two paper และจะใส่ a / an นำหน้าไม่ได้ แต่เราจะใส่ภาชนะเข้าไปด้วยเพื่อให้นับเป็นจำนวนได้ เช่น Two bottles of oil Five packs of salt A loaf of bread เวลาถามจำนวนใช้ How much + คำนามเอกพจน์ เพื่อถามจำนวน เช่น How much water do you drink per day?

สิ่งที่จับต้องไม่ได้ (แต่เรายังสามารถนับได้) เช่น song (เพลง), day (วัน), month (เดือน), year (ปี), hour (ชั่วโมง), minute (นาที), age (อายุ), hobby (งานอดิเรก), activity (กิจกรรม), assignment (งานที่ได้รับมอบหมาย), job (งาน), country (ประเทศ) etc. Countable Nouns สามารถเป็นได้เอกพจน์ (Singular) และพหูพจน์ (Plural) เช่น glass – glasses, table – tables, chair – chairs, book – books, dog – dogs, cat – cats, clock – clocks, ring – rings, banana – bananas, orange – oranges, song – songs, day – days, month – months, year – years, hour – hour, minute – minutes, age – ages, hobby – hobbies, activity – activities, assignment – assignments, job – jobs, country – countries etc. บางคำมีรูปที่เป็นเอกพจน์กับพหูจน์ต่างกัน เช่น man (ผู้ชายคนเดียว) – men (ผู้ชายหลายคน), woman (ผู้หญิงคนเดียว) – women (ผู้หญิงหลายคน), child (เด็กคนเดียว) – children (เด็กหลายคน), person (คนๆเดียว) – (คนหลายคน) etc. เราต้องใช้คำนำหน้า เช่น a/an/the/this/that/my เป็นต้น นำหน้านามนับได้ที่เป็นเอกพจน์ (single countable nouns) เสมอ ไม่สามารถใช้โดดๆคำเดียวได้ เช่น a glass, my book, her dog, his clock, an orange, that song, a day, an hour, an activity etc.

Uncountable nouns คืออะไร

  1. Philosophy purity moisturizer รีวิว reviews
  2. ข้อมูล บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมบัวหลวง จำกัด
  3. Uncountable nouns คืออะไร
  4. ไฟกลม led ติดเพดาน
  5. แบบฝึกหัด Uncountable Noun (Exercise) พร้อมเฉลยถูกผิดหลังทำข้อสอบเสร็จ - ภาษาอังกฤษออนไลน์
  6. โปรแกรม easy acc
  7. การใช้คำนามนับไม่ได้ Uncountable Noun คำนาม
  8. Countable and Uncountable Nouns คืออะไร? – – Jasminine –

เพื่อนของฉัน ซึ่งก็คือโจ อาศัยอยู่ในเมืองเดียวกับฉัน (คำว่า Joe ทำหน้าที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ my friend เป็นการระบุว่าคือเพื่อนคนไหน) ทำหน้าที่เป็นคำขยาย (modifier) ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ noun ที่ตามหลัง I love leather bags. ฉันชอบกระเป๋าหนัง (คำว่า leather จริงๆแล้วเป็น noun แต่ในประโยคนี้จะทำหน้าที่เหมือน adjective ขยายคำว่า bags การที่ noun 2 ตัวอยู่ติดกันโดยไม่มีคอมม่าคั่น noun ตัวหน้าจะทำหน้าที่เหมือน adjective ขยาย noun ตัวหลัง) ทำหน้าที่แสดงความเป็นเจ้าของ (possessive noun) โดยจะต้องใส่ 's หลัง noun ที่เป็นเจ้าของ Susan's cat is very cute. แมวของซูซานนั้นน่ารักมาก แต่ถ้า noun นั้นเป็นคำนามพหูพจน์ที่ลงท้ายด้วย s เราจะใส่แค่เครื่องหมาย ' เฉยๆ My friends' houses are far from school. บ้านของเพื่อนๆฉันนั้นอยู่ไกลจากโรงเรียน จบแล้วนะครับกับเรื่อง noun ในภาษาอังกฤษ ทีนี้เพื่อนๆก็คงจะเข้าใจกันแล้วว่า noun คืออะไร และมีการใช้อย่างไร ถ้ายังไงก็อย่าลืมทบทวนและฝึกใช้บ่อยๆนะครับ อย่าลืมนะครับ ภาษาอังกฤษยิ่งเรียนรู้ ยิ่งฝึก ก็ยิ่งเก่ง สำหรับบทความนี้ ชิววี่ต้องขอตัวลาไปก่อน See you next time

Uncountable Nouns : Exercise - ภาษาอังกฤษออนไลน์

uncountable nouns คืออะไร